Wednesday, October 5, 2016

การเลือกซื้อเปียโนสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่นเปียโน

Tags

เปียโนสำหรับคนที่เริ่มหัดเล่นควรจะเป็นแบบไหน คำถามที่ผู้สนใจหัดเล่นต้องการคำแนะนำ ที่นี่มีคำตอบให้

การเลือกซื้อเปียโนสำหรับผู้หัดเล่น

เปียโนในท้องตลาดมีมากมาย คงเป็นเรื่องที่ยากมากที่ผู้คิดจะเริ่มต้นหัดเล่นเปียโนจะตัดสินใจเองได้ว่าควรเลือกซื้อเปียโนแบบใดมาใช้
ในฐานะคนที่ผ่านช่วงเวลานี้มาแล้วและไม่ผิดหวังกับการเลือกซื้อเปียโนตัวแรก ผมจะแนะนำการเลือกเปียโนเพื่อคุณจะได้หมดปัญหาตรงจุดนี้ไปเลย

ผมจะลองเปรียบเทียบว่าคุณกำลังหาซื้อไม้ปิงปองให้ลูกไปเรียนในชั่วโมงพละ แน่นอนคุณคงไม่ซื้อไม้ป๊อกแป๊กให้ลูกใช้ตีปิงปอง และในทางกลับกันคุณก็คงไม่ซื้อสุดยอดไม้ปิงปองระดับที่แชมป์โลกให้ลูกใช้เช่นกัน แนวคิดนี้ก็ไม่ต่างกับการซื้อเปียโนสำหรับผู้เริ่มต้นหัดเล่น

เปียโนมีกี่แบบ

เปียโนแบ่งได้ใหญ่ๆ เป็น 3 แบบ คือ
  • แกรนด์เปียโน เป็นอะคูสติกเปียโนขนาดใหญ่ วางสายตามนอน เสียงออกดังมาก เคลื่อนย้ายยาก ราคาแพงที่สุด ต้องปรับตั้งสายทุกปี อายุใช้งานอย่างน้อย 30 ปี
  • อัพไรท์เปียโน เป็นอะคูสติกเปียโนขนาดเล็กลงมา วางสายตามตั้ง เคลื่อนย้ายยาก ราคาแพงน้อยลงมา และต้องมีการปรับตั้งสายทุกปี อายุใช้งานอย่างน้อย 20 ปี 
  • เปียโนไฟฟ้าหรือดิจิตอลเปียโน ไม่มีสาย เป็นเสียงสังเคราะห์ที่ออกผ่านลำโพงหรือหูฟังก็ได้ เสียงไม่เป็นธรรมชาติเท่าเปียโนสองแบบข้างต้น แต่เคลื่อนย้ายง่าย บางรุ่นสามารถยกหิ้วได้ ไม่ต้องปรับจูน ราคาไม่แพง มีระบบช่วยในการเรียน อายุใช้งาน 5-10 ปี

เปียโนแบบไหนเหมาะกับผู้เริ่มต้นมากที่สุด

จากประสบการณ์ ขอตอบแบบฟันธงให้เลยว่า เปียโนไฟฟ้าเหมาะกับผู้เริ่มต้นหัดเล่นมากที่สุด ด้วยเหตุผลที่ผมเรียงตามลำดับความสำคัญดังต่อไปนี้
  1. เปียโนไฟฟ้าไม่รบกวนคนอื่นในบ้าน ผมให้น้ำหนักตรงนี้มากที่สุด เพราะเสียงเปียโนคนหัดเล่นเป็นอะไรที่น่ารำคาญและรบกวนชาวบ้านมาก เราสามารถปรับเสียงเปียโนไฟฟ้าให้เบาลงได้ หรืออาจจะเสียบหูฟังซ้อมเล่นก็ได้ เปียโนอะคูสติกเสียเปรียบมากในเรื่องนี้ เพราะเวลาเล่นหรือฝึกหัด เสียงของมันจะดังลั่นบ้าน เผลอๆ จะออกไปรบกวนเพื่อนบ้านอีกด้วย มันจะเกิดอาการเกรงใจและจะไม่ได้ห้ดเล่นในที่สุด
  2. เปียโนไฟฟ้ามีระบบช่วยในการเรียนของผู้เริ่มต้นหัดเล่นเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ ระบบอัดเสียงที่จะทำให้ได้ลองฟังผลงานที่ตัวได้เล่น (เพราะตอนเล่นลืมฟัง มัวแต่โฟกัสที่จะเล่นอย่างเดียว) มีระบบเคาะจังหวะช่วยให้เราคุมจังหวะได้สม่ำเสมอ มีการแบ่งแยกคีย์บอร์ดเป็น 2 ฝั่งได้ เพื่อให้สามารถนั่งเรียนติดกับครูได้เลย
  3. เปียโนไฟฟ้าดูแลง่ายที่สุด เพราะแทบไม่ต้องดูแล ไม่ต้องจ้างช่างมาปรับจูนเสียงอย่างที่เปียโนอะคูสติกต้องปรับจูนปีละครั้ง ถ้าสายมันเพี้ยนแล้วไม่จูน การได้ยินเสียงที่เพี้ยงบ่อยๆ จะทำให้การฝึกฟังเสียงเพื้ยนไปด้วย
  4. เปียโนไฟฟ้าเคลื่อนย้ายง่าย หมดปัญหาในการจะเลือกวางที่ไหน โดยมากพ่อแม่มักจะเลือกวางเปียโนในห้องที่ทุกคนในบ้านจะใช้ร่วมกันอย่างห้องนั่งเล่น ให้ลูกซ้อมไปในขณะที่พ่อแม่จะได้ดูละครหรือนั่งทำงาน แต่บางทีคนหัดเล่นเปียโนก็อยากจะมีสมาธิในการฝึก ไม่ถูกรบกวนสมาธิจากทีวี การย้ายไปฝึกที่ห้องนอนก็สามารถทำได้ไม่ลำบาก บางโอกาสก็อยากจะแสดงให้ญาติๆ หรือเพื่อนฝูงได้ชื่นชมก็ย้ายกลับมาที่ห้องนั่งเล่นหรือที่สนาม เปียโนไฟฟ้ามีน้ำหนักไม่มาก สามารถทำได้ แต่ถ้าเป็นอะคูสติกเปียโนก็คงต้องจ้างคนมาเคลื่อนย้ายอย่างเดียว นอกจากนี้เปียโนไฟฟ้าบางรุ่นสามารถแยกส่วนหิ้วไปเล่นโชว์ที่ไหนก็ได้ แค่ยกตัวเครื่องออกจากชุดขาตั้ง แค่มี X-stand กับเก้าอี้พับก็สามารถจับยัดใส่รถไปแสดงได้ทุกที่(ที่มีปลั๊กไฟ) 
  5. เปียโนไฟฟ้ามีหลายเสียงให้เลือกเล่น เป็นหนึ่งสีสันที่ทำให้อารมณ์เพลงหลากหลาย และคนหัดเล่นไม่เบื่อ
  6. เปียโนไฟฟ้าก้าวไปกับเทคโนโลยียุคใหม่ สามารถต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ที่มีโปรแกรมพิเศษต่างๆ ที่สนับสนุนการใช้งานระดับมืออาชีพ 
  7. เปียโนไฟฟ้า ราคาเริ่มต้นที่ไม่แพง

สเปกอย่างต่ำที่ต้องมีในเปียโนไฟฟ้าสำหรับผู้เริ่มต้น 

เหมือนเดิมนะ ไม่ต้องเสียเวลาร่ายยาว ฟันธงให้เลย

1. ต้องเป็นแบบ 88 คีย์ มันคือมาตรฐานเท่าเปียโนใหญ่มืออาชี

2. ต้องบันทึกเสียงการเล่นได้

3. ต้องมีตัวเคาะจังหวะ

4. ต่อ Sustainable pedal ได้ (ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ 3 Pedals)

5. มีประกัน

ขอแค่นี้พอ ถ้ามีต่ำกว่านี้คือใช้ไม่ได้ ถ้ามีมากกว่านี้คือก็จะไม่ได้ใช้ ที่บอกแบบนี้เพราะมาจากประสบการณ์ล้วนๆ ให้โน่นนี่นั่นมาเยอะแยะ แทบไม่เคยได้ใช้เลย เปิดใช้ครั้งเดียวตอนเรียนรู้จากคู่มือ พอเล่นจริงเหลือแค่เสียงเปียโนหลัก, เหยียบ Pedal, เคาะจังหวะ และบันทึกเสียง แค่นั้นจริงๆ 

ไอ้ที่ให้มาเยอะแยะเนี่ยผมยังคิดอยู่ว่าวงจรสมองกลมันก็ต้องซับซ้อนขึ้น อะไรที่มันซับซ้อนมันจะมาพร้อมความบอบบาง พังง่าย อะไรที่ง่ายๆ จะพังยาก อันนี้ความเห็นส่วนตัวนะ

ฟันธงไปเลยเปียโนไฟฟ้าตัวไหนดีในปี 2020

 เหมือนเดิมไม่ต้องร่ายยาว ผมคัดมาให้ 3 ยี่ห้อๆ ละ 2 ตัวเลือก

1. Yamaha ยี่ห้อที่ราวกับเป็นสถาบันดนตรี

รุ่นที่ใช้ได้คือ P115 หรือ  P125 

2. Casio ยี่ห้อที่ให้ความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

รุ่นที่ใช้ได้คือ PX-160 หรือ PX-S1000 (เสียงเหมือนกัน แต่ S1000 เป็นรุ่นออกใหม่)

3. Kawaii เสียงหวานนุ่ม และหน้าตาสวย สมฐานะกับเจ้าของ

รุ่นที่ใช้ได้คือ CN27 หรือ KDP 110

6 รุ่นที่เสนอมานี้คือตัวเลือกยอดนิยม จากนี้ก็เหลือแค่ว่าตัวไหนจะถูกใจคุณ แต่ละคนก็คิดคนละแบบไม่เหมือนกัน 

อย่างผมชอบเสียงของ Kawaii KDP110 มาก แต่ไม่ถูกจริตตรงที่มันเป็นคาบิเนต ดูสวยเกินฐานะ แถมมาพร้อม Pedals เหยีบย 3 ขาอีก ถูบ้านยากมาก กลายเป็นที่สะสมฝุ่น ไม่มีคนใช้ เลยขอผ่าน ส่วนเสียงที่ชอบรองลงมาคือตระกูล PX ของ Casio โดย Casio PX-S1000 โดนใจผมตรงมันดูธรรมดาและง่ายมาก ถอดหิ้วไปเล่นที่ไหนก็ได้สะดวก ใส่ถ่านเล่นได้ ทั้งบนภูหรือชายทะเล ถ้าให้เลือกก็จะเอาตัวนี้เป็นสีดำ ดูแลง่าย และเอาแบบไม่ต้องใส่ที่เหยียบ 3 ขา ใช้แค่กล่องเหยียบพอ ประหยัดได้อีก แต่ถ้าคิดว่าแพงไป Casio PX160 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี แถมตอนนี้แต่ละร้านจะพยายามระบายสต๊อกออกให้หมดเพราะ S1000 ที่ใหม่กว่ามาแล้ว ร้านค้าแข่งสู้ราคากันสุดเดช ลูกค้าก็ได้ประโยชน์ ตัดสินใจง่ายขึ้น ส่วน Yamaha ไม่ใช่ไม่ดี เสียงก็ได้พอๆ กับ Casio แต่คิดเอาเองว่าราคาที่ให้มามันมีราคาแบรนด์บวกมาด้วย ซึ่งผมไม่ได้ยึดติดตรงนั้น

เห็นไหมครับ ถาม 10 คนก็ได้ 6 อย่าง (เพราะมีให้แค่ 6 ตัวเลือก ฮา) เพราะงั้นคือตัดสินใจเองละกัน จริงๆ ตัวไหนก็ได้หมดล่ะ เอาตามกำลังเงินที่จ่ายได้ ถ้าเอามาแล้วฝึกเล่นเก่งๆ มันจะฟังเพราะไปหมดนั่นหละ อายุใช้งานเปียโนไฟฟ้าก็ประมาณ 5-10 ปี กว่ามันจะพังคุณก็เก่งไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

คุณอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่เอาแบบ 3 Pedals ไปเลยล่ะ คำตอบคือในชีวิตจริง pedal ตัวที่ถูกเหยียบมากที่สุดคือตัวขวาสุด คือ Sustainable pedal ที่ทำให้เสียงกังวานยาวนาน ส่วนอีก 2 Pedals ใช้ในเพลงคลาสสิคบางเพลงเท่านั้น ถ้าไม่ได้ตั้งใจเรียนจะไปสอบเอาเกรด Pedal เดียวพอครับ

ซื้อเปียโนที่ไหนดี

ตอบจริงจากใจคือไปซื้อที่ร้านขายเปียโนใหญ่ๆ ครับ รับรองเลยว่าที่ร้านจะมีรุ่นที่ผมบอกทั้งหมด เพราะมันเป็นรุ่นยอดนิยม ที่ร้านจะมีพนักงานขายที่เล่นเปียโนได้ ให้เขาเล่นให้ฟังเลย คุณแค่ยืนฟัง ชอบเสียงอันไหน ราคาได้ หน้าตาได้ ซื้อเลย อย่าลังเลนาน เสียเวลาที่จะเริ่มต้นฝึกครับ เขาจัดส่งให้ถึงบ้าน ไม่ต้องเสียเวลาประกอบเองด้วย

ส่วนใครที่คิดว่าดีหมดทุกอันนั่นแหละ ไม่งั้นมันขายไม่ได้มาถึงวันนี้หรอก ก็ช่วยมาจิ้มซื้อในโฆษณาที่ผมแปะไว้ก็ได้ เลือกที่อยู่ในงบ โอนเงินเสร็จอีกไม่กี่วันของก็จะมาถึงบ้าน บางเจ้าอาจจะส่งมาเป็นกล่องซึ่งคุณต้องประกอบเอาเอง ก็ถือซะว่าได้เรียนรู้การประกอบไปในตัว ต่อไปจะย้ายจะถอดก็ไม่ต้องกังวลว่าจะทำยังไง ความเหนื่อยก็ชดเชยกับราคาของที่ถูกลง (ประกอบไม่ยากครับ ผมก็ทำเอง)
Yamaha P115

Yamaha P125

Casio px160

Casio px s1000

Kawai cn27

Kawai kdp110

หาซื้อที่เป็นมือสองดีไหม

ตอบยาก เพราะไม่รู้ว่าสภาพการใช้คนมือแรกเป็นอย่างไร แต่ถ้าคิดว่าจะซื้อมือสองก็ควรอยู่ในระยะประกัน คุณต้องได้ใบรับประกันและคู่มือการใช้งานเปียโนรุ่นนี้มาด้วย เพราะมันสำคัญมาก โดยเฉพาะคู่มือ ถ้าไม่มีคุณจะปวดหัวที่สุด

ซื้อคีย์บอร์ดมาแก้ขัดก่อนได้ไหม

ตอบแบบไม่เกรงใจคือใช้ไม่ได้ครับ แต่ถ้าไปถามที่ร้าน ยังไงเขาก็ต้องบอกว่าก็พอใช้ถูๆ ไถๆ เพราะไม่อยากเสียลูกค้า และถ้าคุณซื้อมาแล้ว ผมบอกเลยว่าคุณต้องเสียเงินอีกรอบเพื่อซื้อเปียโนมาเล่นครับ เพราะมันทดแทนกันไม่ได้จริงๆ แถมยังต้องวุ่นวายกับการขายต่อ หรือไม่ก็ต้องทิ้งมันไว้ให้รกบ้านอีก 

ปิดท้ายคำแนะนำในการเลือกซื้อเปียโนสำหรับผู้เริ่มต้น

แนะนำให้เลือกร้านที่เป็นร้านสแตนด์อะโลนมีประตูปิดมิดชิด ดีกว่าซื้อในพื้นที่เปิดของห้าง เพราะเวลาฟังเสียงจะได้มีสมาธิ ไม่ต้องถูกรบกวนด้วยเสียงเพลงเสียงประกาศของห้าง
 
สำหรับผู้เริ่มต้น การเดินเข้าร้านขายเปียโนโดยไม่ทำการบ้านไปก่อน คุณจะเป็นไก่ตาแตกเมื่ออยู่ในร้าน เพราะมันมีเปียโนเยอะมาก ละลานตาไปหมด ถ้ายิ่งเซลจับทางคุณไม่ได้สุดท้ายคือจะพาลงเหวกันทั้งสองฝ่าย เสียเวลาด้วยกันทั้งคู่

ทีนี้สมมติว่าคุณคัดตัวเลือกมาอย่างดีแล้ว ขอให้พนักงานเล่นให้ฟังแต่ละตัวเลย และเจาะจงให้เล่นเฉพาะเสียงเปียโนหลักเท่านั้น เพราะเป็นเสียงที่เราจะใช้เล่นมากที่สุด พนักงานอาจจะบอกคุณว่าตัวนี้เล่นได้ 30 เสียงจะเล่นให้ดู ห้ามบ้าตามมันครับ เอาแค่เสียงเปียโนหลักให้รอดก่อน ไม่งั้นฟังกันอวกแตก 

จากนั้นคุณต้องให้คะแนนให้ได้ว่าเสียงเปียโนหลักตัวไหนจะได้ที่หนึ่งที่สองที่สาม สวมวิญญาณเมนเทอร์เดอะเฟส ขั้นตอนนี้ไม่จำเป็นต้องจบในการไปร้านหนเดียว (ค่อยยังชั่ว ดีกว่าเดอะเฟสหน่อย)

แต่ถ้าไปฟังกี่รอบกี่รอบก็จัดลำดับไม่ได้ซักที พนักงานก็เล่นให้ฟังจนมือหงิกแล้ว แปลว่ามันใช้ได้หมดล่ะครับ ข้ามไปขั้นตอนพิจารณาซื้อได้เลย

สมมติพอคุณจัดลำดับเสียงที่ชอบได้แล้วค่อยเอาเรื่องรูปร่างหน้าตา ฟังก์ชั่น และราคามาประกอบการพิจารณา ไล่จากเบอร์หนึ่งลงมา ถ้าดูภาพรวมแล้วไม่ใช่ก็ต้องตัดใจคัดทิ้งแล้วลงไปดูเบอร์สอง ทำอย่างนี้ไปจนได้ที่มันลงตัวกับคุณ คู่แท้ของคุณอาจจะไม่ใช่ตัวที่คุณชอบเสียงมากที่สุด

แล้วถ้าหากซื้อมาแล้วเกิดอาการไม่ถูกใจทีหลัง รับข้อด้อยของมันไม่ได้จริงๆ แนะนำว่าขายทิ้งซะแล้วหาใหม่ รุ่นที่ผมสโคปมาล้วนซื้อง่ายขายคล่องในตลาดมือสอง แต่โอกาสจะเกิดเหตุการณ์นี้มีน้อยมาก


EmoticonEmoticon