Monday, June 29, 2015

เพลงที่ 2 : Hallelujah จากภาพยนตร์เรื่อง Shrek

Tags

พอเริ่มหัดเล่นไปได้เพลงนึงแล้ว เพลงนี้ก็ตามมาเลยครับ มั่นใจก่อนหัดว่าเล่นได้แน่นอน เพลงเพราะเหลือเกินครับ

จากเพลงที่ 1 ที่ผ่านมา ผมได้หัดเล่นเปียโนเพลง All of Me ใช้เวลาในการหัดเล่นประมาณ 1 เดือน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามือใหม่ที่ไม่เคยแตะเปียโนมาก่อนก็สามารถเล่นได้ แม้ว่าจะยังไม่ดีเท่าไหร่แต่ถ้าขยันซ้อมบ่อยๆ ก็คงจะดีขึ้น แม้ว่าจะไม่รู้เลยเรื่องตัวโน๊ตหรือทฤษฎีดนตรีใดๆ

มาคราวนี้ถือเป็นเพลงที่ 2 ของการหัดเล่นเปียโนของผม ผมได้ค้นเจอคลิปสอนการเล่นเปียโนเพลง Hallelujah ซึ่งเป็นเพลงที่เพราะมากเพลงหนึ่งซึ่งประกอบอยู่ในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Shrek

Hallelujah
เพลง Hallelujah ที่ประกอบในหนังเรื่อง Shrek ภาคแรก
คลิปที่สอนการเล่นเพลง Hallelujah ครั้งนี้เป็นของ PianoTrendy มีรายละเอียดและความรู้ด้านดนตรีให้ด้วยอย่างเรื่อง Chord, Octave และ Time Signature แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ได้กดดันผู้เรียนว่าจะต้องเข้าใจถึงจะเล่นได้ ถึงไม่เข้าใจก็ยังไม่เป็นไร หัดเล่นตามที่เขาสอนก็จะเล่นเพลงนี้ได้แน่
คลิปของ PianoTrendy สอนเล่นเปียโนเพลง Hallelujah
วิธีที่ผมฝึกหัดเล่นเพลงนี้ก็เหมือนกับเพลงที่แล้ว คือไม่ได้สนใจเรื่องโน๊ตเรื่องทฤษฎีดนตรีเท่าไหร่ อยากรู้แค่ว่านิ้วไหนกดลิ่มไหนพอ แล้วก็ลอกเล่นตามแค่นั้น ต่อยๆ ฝึกเล่นไปทีละท่อนสั้นๆ เล่นให้ได้จนชินนิ้วแล้วถึงจะขยับไปเล่นท่อนถัดไป ผมใช้เวลาฝึกเพลงนี้ 1 เดือนเหมือนเพลงที่แล้ว  และนี่คือผลจากการฝึกครับ
มันก็ยังดูกระท่อนกระแท่นอยู่ นิ้วก็ยังเกร็งครบทั้ง 10 นิ้วเหมือนเดิม (บางทีเกร็งมาถึงแขนด้วย ฮา) ถามว่ายากมั๊ย มันก็มีความยากทุกท่อนที่ฝึกนั่นแหละ กว่าจะผ่านได้แต่ละท่อนก็ต้องฝึก 3-5 วัน มันจะไปง่ายได้ไง ถ้าง่ายคนก็เล่นเปียโนได้กันทั้งประเทศไปแล้ว ไม่ต้องมานั่งฝึกเป็นชั่วโมงๆ แบบนี้ แต่ผมว่ามันสนุกนะ ฝึกได้ไม่เบื่อเลย 

ความรู้สึกของผมในการฝึกเปียโนก็คล้ายเล่นเกมส์คอม มันยาก เดี๋ยวก็พลาด เด๊๋ยวก็พลาด มันเสพติด พอเล่นไปเรื่อยๆ ก็จะไปสเตจที่สูงขึ้น มันเป็นความสำเร็จก้าวเล็กๆ ที่ค่อยๆ เก็บไปเรื่อยๆ เผลอแป๊บๆ ก็ฝึกจบเพลง แล้วที่มันดีกว่าเล่นเกมส์คอมคือมันเป็นทักษะติดตัวที่พิเศษกว่าคนทั่วไป มันไม่ได้ไก่กาไร้สาระ

เนื้อร้องเพลง  Hallelujah
I heard there was a secret chord
That David played and it pleased the Lord
But you don't really care for music, do you?
It goes like this the fourth, the fifth, the minor fall, the major lift
The baffled king composing Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah

Your faith was strong but you needed proof
You saw her bathing on the roof
Her beauty and the moonlight overthrew ya
She tied you to her kitchen chair, she broke your throne, she cut your hair
And from your lips she drew the Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah

Baby I've been here before
I've know this room and I've walked this floor
I used to live alone before I knew ya
I've seen your flag on the marble arch, love is not a victory march
It's a cold and it's a broken Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah

There was a time when you let me know
What's really going on below
But now you never show that to me, do ya?
Remember when I moved in you, the holy dark was moving too
And every breath we drew was Hallelujah

Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah, Hallelujah

Maybe there's a God above
And all I've ever learned from love
Was how to shoot at someone who outdrew ya
It's not a cry you can hear at night, not somebody who's seen the light
It's a cold and it's a broken Hallelujah

Hallelujah, hallelujah, hallelujah, hallelu...
Hallelujah, hallelujah, hallelujah, hallelujah
ความหมายเพลง Hallelujah (ถอดความหมายตามอารมณ์เพลง ไม่ได้แปลคำต่อคำ)
ท่อน 1 เธอจะซึ้งกับเพลงเพราะๆ ที่ไม่มีใครรู้จักรึเปล่า ถึงฉันจะดีเพียงใดแต่ก็อยู่นอกสายตาเธอ (เหมือนบทเพลงลึกลับที่เดวิดเล่นให้พระราชาฟัง)
ท่อน 2 รู้อยู่เต็มอก ว่าฉันหลงรักเธอ และต้องแลกด้วยความเจ็บปวด (เหมือนอย่างที่แซมซั่นถูกคนรักทรยศและตัดผมจนหมดสิ้นพลัง แซมซั่นได้พรให้มีพลัง แต่ต้องไม่ถูกตัดผม)
ท่อน 3 ฉันรู้และเจียมตัว เหมือนสุนัขแหงนมองเครื่องบิน มีแต่ความสิ้นหวัง (ขบวนแห่ชัยชนะในสงครามรักนี้ไม่มีวันจะเกิดขึ้น)
ท่อน 4 เมื่อไหรเธอมีใจให้ฉัน ยิ่งเข้าใกล้ก็เหมือนยิ่งห่าง
ท่อน 5 ฉันรักเธอ ฉันอยากจะฆ่าทุกคนที่ใกล้เธอ มันช่างปวดร้าวและสิ้นหวัง
------------------------------------------------------------------------------------------
เพลง Hallejujah ถูกแต่งขึ้นและร้องโดยศิลปินแคนาดา Leonard Cohen ในปี 1984 แต่มาดังตอนที่ Jeff Buckley นำกลับมาร้องใหม่
เนื้อเพลงมีความหมายลึกซึ้งในเชิงศาสนา หลายท่อนอ้างถึงเนื้อหาในคัมภีร์ไบเบิล
เพลงนี้ถูกนำมาใช้ประกอบในภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่อง Shrek ภาคแรกสะท้อนอารมณ์แห่งความปรารถนาที่ไม่อาจเป็นไปได้


EmoticonEmoticon